วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

7 ประเภทของ Fan บน Social Media


สำหรับผู้ดูแล Social Media จำเป็นต้องรู้จักพฤติกรรมของ Fan ที่ติดตาม Social Media ของคุณ ทาง ReachLocal ซึ่งเป็น Marketing Agency ได้ลองแบ่งประเภทของ Fan ออกเป็น 7 ประเภท ดังนี้

  1. The Quiet Follower
    คือแฟนกลุ่มที่ติดตามคุณบน Facebook และ Twitter แต่ไม่แสดงออกถึงความคิดเห็นพูดคุยในช่องทางของแบรนด์
  2. The Casual Liker
    คนพวกนี้ติดตามแบรนด์ของคุณและชอบกดไลค์แบรนด์ของคุณเพื่อให้ผู้อื่นรู้ว่าเขาใช้แบรนด์นี้
  3. The Deal Seeker
    คนกลุ่มนี้ไม่ได้ชื่นชอบแยรนด์ แต่กดไลค๋เพื่อเข้ามาล่าของรางวัลที่แบรนด์แจก
  4. The Unhappy Customer
    เป็นลูกค้าที่มีประสบการณ์ทางลบกับแบรนด์ กดไลค์เพื่อที่จะมาต่อว่าแบรนด์
  5. The Negative Detractor
    เป็นกลุ่มคนที่จะคอยโจมตีแบรนด์ มีทั้งลูกค้าและไม่เป็นลูกค้า
  6. The Enthusiastic Cheerleader
    คนที่ชื่นชอบแบรนด์เป็นพิเศษ หรือ “สาวก” ของแบรนด์
  7. The Loyal Customer
    กลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีกับแบรนด์ พร้อมที่จะแนะนำแบรนด์ให้กับเพื่อนๆ

ที่มา: blog.reachlocal.com


พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

8 ขั้นตอนพื้นฐานในการทำ SEO เพื่อสร้างธุรกิจขนาดเล็กของคุณให้เติบโต


  1. วางแผนด้วยการวิเคราะห์คำหลัก
    ใช้ Google Keyword Planner เพื่อวิเคราะห์ว่าคำหลักใดที่ลูกค้าค้นหา ใช้ SEMrush เพื่อตรวจสอบคำหลักที่คู่แข่งใช้
    กำหนดเป้าหมายคำหลักในท้องถิ่น (Local Keyword) ที่อธิบายธุรกิจของคุณ เช่น “งานแต่งงาน ชลบุรี” ใช้โปรโมทธุรกิจวางแผนแต่งงานในจังหวัดชลบุรี เป็นต้น
  2. โดดเด่นด้วย Onsite SEO
    ใส่คำหลักไว้ใน page title, meta descriptions, URLs และ Content
    สร้างเพจเพิ่มเพื่อเพื่อคำหลักอื่นๆ ให้ Search Engine รู้จัก
      
  3. ทำ Local SEO ด้วย Google+
    สร้าง Google+ Business Profile ที่ www.google.com/+/business กำหนดคำหลักในคำอธิบายเพจ เพจที่สร้างจะปรากฏใน Local Search

  1. เขียน Blog
    สร้าง Content ที่น่าสนใจ มีประโยชน์ อ่านแล้วอยากแชร์ต่อ โดยใช้ภาพ วีดีโอ ทิปส์ ข่าวและอื่นๆ ใช้ Longtail Keyword ในแต่ละ Content

  1. ทำตลาดออนไลน์วิธีอื่นๆ ด้วย
    ใช้เว็บรีวิว Social Media ทำ PPC การตลาดผ่านอีเมล จ้างบล็อกเกอร์ ลงโฆษณาด้วยแบนเนอร์ Remarketing เว็บบอร์ด Facebook และอื่นๆ ในการดึง Traffic และผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้า
    ทดสอบและประเมินผลว่าวิธีการใดได้ผลคุ้มค่าที่สุดกับงบประมาณที่ลงไป
  2. กระตุ้นให้เกิดการกระทำ
    แน่ใจว่าผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเว็บไซต์ของคุณได้ทำในสิ่งที่คุณต้องการ เช่นโทรหาคุณ คุณต้องเขียนข้อความบอกเขาว่าควรทำอะไรเป็นอย่างแรก
  3. ทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพด้วย CMS
    Content Management System (CMS) เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ Content และจัดการ SEO
  4. Go Mobile
    ออกแบบเว็บให้เป็นแบบ Responsive ซึ่งสามารถแสดงผลได้ดีไม่ว่าจะเปิดที่ mobiles, tablets และ destops

ที่มา: http://visual.ly/8-seo-basics-grow-your-small-business

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

เรียนการตลาออนไลน์ Digital Marketing ขายของออนไลน์ เรียนที่ https://www.teamdigital.co/

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การประสาน Paid Media Owned Media และ Earned Media เข้าด้วยกัน

การใช้สื่อทั้ง 3 ประเภทในการสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมาย คุณต้องแน่ใจว่าสิ่งที่สื่อสารไปยังผู้บริโภคเป็น Key Message เดียวกัน คุณอาจจ่ายเงินเพื่อให้ Blogger ที่เป็น Influencer หลายๆ คนให้เขียน Blog Review หรือทำวีดีโอเกี่ยวกับสินค้าของคุณ แฟนของ Blogger ก็อาจจะแชร์ Content ต่อผ่านสื่อ Social Media ของแต่ละคน ซึ่งจะนำผู้ที่สนคนสินค้าของคุณมายังเว็บไซต์หรือสื่อของคุณที่คุณได้เตรียมไว้

ที่มา: www.business2community.com

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สื่อ 3 ประเภทในยุค Digital Marketing

Paid Media คือการจ่ายเงินเพื่อซื้อสื่อโฆษณาทั้งออนไลน์และออพไลน์เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ เพื่อนำผู้คนไปยัง Owned Media

Owned Media คือสื่อที่คุณเป็นเจ้าของรวมถึงสื่อที่คุณควบคุมได้ เช่น เว็บไซต์ เว็บบล็อก เฟชบุ๊กเพจ ทวิตเตอร์ คุณสร้าง Content บนสื่อเหล่านี้ เช่น White paper การโพสต์บล็อก Infographics ข้อความที่คุณทวีต รูปภาพ วีดีโอบนยูทูป และอื่นๆ เมื่อคนอื่นๆ เริ่มกระจายเนื้อหาของคุณ คุณจะได้ Earned Media

Earned Media คือสื่อที่ลูกค้าและบุคคลภายนอกเป็นผู้สร้าง เช่น ข่าวประชาสัมพันธ์ ความเห็นในเว็บไซต์รีวิว คอมเมนท์บน Google+ การ RT บนทวิตเตอร์ การแชร์บนเฟชบุ๊ก

ที่มา: www.business2community.com

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การชิงพื้นที่บนฟีดข่าวของ Facebook

ในการทำ Search Engine Marketing ก็คือการชิงตำแหน่งที่ดีในหน้าค้นหาของ Google ด้วยคำหลักที่ใช้คนหา ซึ่ง Google จะจัดอันดับโดยใช้ PageRank และปัจจัยอื่นๆ

ส่วนการทำ Facebook Marketing ก็คือการชิงพื้นที่ในหน้าฟีดข่าวของผู้ใช้แต่ละคนที่เข้ามาอ่าน Facebook มีการเลือกโพสต์ที่จะแสดงในฟีดข่าวของเราตาม EggeRank ซึ่งมีหลักดังนี้
  • Affinity ความสัมพันธ์ของเรากับคนนั้นหรือเพจนั้น ว่าสื่อสารกันบ่อยไหม และเป็นไปในทางบวกแค่ไหน 
  • Weight น้ำหนักความน่าสนใจโดยรวมของสิ่งที่คนนั้นหรือเพจนั้นโพสต์ 
  • Time Decay อายุของโพสต์ว่าโพสต์มานานหรือยัง
พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ดูข้อมูลของลูกค้าจาก Facebook Check In

สำหรับกิจการที่มีสถานที่ตั้งเช่นร้านอาหาร พฤติกรรมที่ลูกค้ามักจะทำเวลามาทานอาหารก็คือถ่ายรูปอาหาร หรือบรรยากาศ แล้วก็ Check In หรือ Tag สถานที่ เพื่อบอกให้เพื่อนรู้หรือเป็นการบันทึกว่าตนเองได้มาทานที่นี่แล้ว ซึ่งสถานที่ที่ลูกค้าเช็คอินนั้นหากเข้าไปดูเช่น “ครัวเมืองเว้ อาหารเวียดนาม” มีคนมาเช็คอินที่นี่ถึง 1,914 คน

เมื่อดูข้อมูลโดยละเอียดจากสถานที่นี้โดยเข้าไปที่ “People who visited ครัวเมืองเว้ อาหารเวียดนาม” พบว่าเราจะเห็นข้อมูลของลูกค้าที่มา Check In โดยละเอียด เห็นสถานที่ทำงาน เห็นว่าเรียนจบที่ไหน อาศัยอยู่ที่ใด ฯลฯ และทางด้านขวาก็ยังสามารถที่จะกรองข้อมูลได้อีก เช่นต้องการดูข้อมูลลูกค้าเฉพาะผู้หญิงโสดอายุ 20-30 ปี ก็สามารถทำได้

ซึ่งหากกิจการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในการทำฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อทำ CRM ก็คงมีประโยชน์ไม่น้อย

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วิธีง่ายๆ ในการตรวจสอบแบรนด์ของคุณในผลการค้นหาของ Google

  • ลองค้นหาชื่อแบรนด์ของคุณในกูเกิ้ลว่ามีขอมูลในหน้าแรกหรือไม่ มีอะไรที่ปรากฏในผลการค้นหาบ้าง เช่นบทความทางวิชาการ Blog post วีดีโอรีวิว กระทู้ Q&A แผนที่ เว็บไซต์ ฯลฯ
  • ลองพิมพ์คำต่อท้ายแบรนด์ของคุณเช่น [Your Brand] รีวิว [Your Brand] ราคา
  • พิมพ์หมวดหมูของสินค้าของคุณแล้วตามด้วย ดีที่สุด เช่น กล้องดิจิตอล ดีที่สุด เพื่อตรวจสอบว่าแบรนด์ของคุณอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ในผลการค้นหา
พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วงจรการตัดสินใจซื้อสินค้า

ZMOT เป็นพฤติกรรมการค้นหาข้อมูลก่อนจะซื้อสินค้าและบริการก่อนที่ผู้บริโภคจะทำการจับจ่ายสินค้า
Google ได้วิเคราะห์ออกมาเป็นแนวคิด และเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่า Zero Moment of Truth หรือ ZMOT
  • Stimulus เป็นช่วงเวลาที่ได้เห็นโฆษณาผ่านเข้ามา
  • ZMOT ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกค้าจะมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ก่อนหน้าที่จะไปถึงร้านค้าจริง เช่นการเริ่มค้นหาข้อมูลสินค้าที่ตัวเองสนใจ เพื่อดูรีวิว เรตติ้งของสินค้า จากเว็บไซต์ และ Social Media ต่างๆ ดูวิดีโอคลิปจาก YouTube กระทั่งการสแกน Barcode จากโทรศัพท์แล้วเปิดอ่านรีวิวขณะที่อยู่ที่ร้านค้าเลย
  • FMOT หรือ First Moment of Truth เป็นคำที่ถูกนิยามไว้ตั้งแต่ปี 2005 โดย Procter & Gamble (P&G) ว่าเป็นชั่วขณะที่ผู้ซื้อมีปฏิสัมพันธ์กับหน้าร้านและเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจซื้อ
  • SMOT หรือ Second Moment of Truth เป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้ว และมีประสบการณ์ในการใช้งานสินค้าดังกล่าว เค้าเหล่านั้นอาจจะมาเขียนรีวิวแบ่งปันข้อมูลบนเว็บไซต์ก็เป็นได้
Google ได้เก็บรวบรวมข้อมูลสถิติในปี 2011 ผ่านกลุ่มตัวอย่างเฉพาะที่นิยมบริโภคซื้อขาย และทำธุรกรรมผ่าน Digital ในหลายๆ ประเภทธุรกิจ พบว่า 84% ของผู้บริโภคกลุ่มตัวอย่าง จะทำการศึกษาข้อมูลของสินค้า และบริการผ่านเว็บไซต์ เครื่องมือค้นหา ไปจนถึง Social Media ก่อนเสมอ หลังจากที่ผู้บริโภคกลุ่มตัวอย่างได้ ศึกษาข้อมูลแล้วผู้บริโภคจึงจะเดินเข้าไปตัดสินใจในสินค้าและบริการด้วยตัวเองอีกทีที่หน้าร้านหรือหน้าเนื้อหาบนเว็บไซต์

ดังนั้นธุรกิจของเราควรตรวจสอบว่าในอินเตอร์เน็ตมีข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของเราที่ลูกค้าต้องการหรือไม่

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อะไร คือสิ่งที่ลูกค้าค้นหา ?

พฤติกรรมของลูกค้า ไม่ได้หาแต่บทความ เราควรมี Content ควรครอบคลุมทุกองศา ดักทาง ดักความต้องการ ของลูกค้า  ไม่ว่าจะเป็น บทความวิชาการ , Blog content , รูปภาพ , Video รีวิว , กระทู้  , Q&A   ซึ่งแต่ละเครื่องมือมีหน้าที่ของมัน แต่จุดเด่นที่ต่างกัน

  • บทความวิชาการ เป็นเรื่องข้อมูลข้อเท็จจริง เป็น Fact ที่สร้างความน่าเชื่อถือ อาจจะอยู่บทเว็บไซต์ของเราเอง หรือ Wiki ก็ได้
  • Blog post  เป็น  Influences เพิ่มความรู้สึกในการตัดสินใจอยากใช้ อยากลองสินค้า
  • Video review  ช่วยในความเข้าใจในสิ่งที่ซับซ้อนและกระตุ้นความรู้สึกได้มาก เพราะได้เห็นวิธีการและการใช้งานจริงของสินค้า
  • กระทู้ เป็น เสียงจากลูกค้าด้วยกันเอง จึงทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อเท็จจริงกับผู้ใช้งานด้วยกัน
  • Q&A  อย่าง guru.google , Yahoo answer , Quara 

แต่จุดที่สำคัญคือ Targeting Keywords ทุกๆ Content Network ที่แบรนด์ สร้างขึ้นมานั้นจะต้องมีองค์ประกอบของคีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาหลักๆ ที่แบรนด์หรือสินค้านั้นๆจะกำหนดขึ้นมา  เพราะไม่ว่าลูกค้าจะ Search แบบไหน ก็พบเนื้อหาที่คุณสร้างขึ้นมาดักแทบทั้งนั้น

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กฎน่ารู้พื้นฐานในการทำ SEO


Search Engine Optimization เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของผู้ที่ต้องการทำการตลาดออนไลน์ แม้ต้องใช้เวลานานในการเรียนรู้ แต่วันนี้เรามีกฎพื้นฐานในการโปรโมทเว็บไซต์ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสอยู่ในอันดับที่ดีใน Search engine มาฝากกัน

 1. คุณภาพของเนื้อหา

 เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำ SEO โดยส่งผลต่อการจัดอันดับใน Search Engine เนื้อหาต้องได้รับการเขียนขึ้นมาใหม่ ต้องไม่ก๊อปปี้ใครมา อ่านแล้วให้ประโยชน์สาระ ตรงตามหัวข้ออย่างชัดเจน

 2. ชื่อเสียงของนักเขียน

 มีส่วนบ่งชี้ถึงคุณภาพของเนื้อหา ว่าเป็นเนื้อหาใหม่ ลิขสิทธ์ของบทความต่างๆจะช่วยสร้างเครดิตทำให้เว็บไซต์ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะจะลดปัญหาสแปมและเนื้อหาที่ซ้ำกัน แม้Google จะยังไม่คอนเฟิร์ม แต่จะได้ว่าเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงต่างๆได้พร้อมใจกันใส่ rel=“author” ไปตามๆกันแล้วค่ะ

 3. ระบบรองรับการใช้งานจากมือถือ

 ปัจจุบัน 16% ของการค้นหาข้อมูลใน Search engine มาจากอุปกรณ์พกพา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าหรือธุรกิจในพื้นที่ใกล้เคียงมักจะมาจากอุปกรณ์เหล่านี้ทั้งสิ้น แม้ว่าอาจจะไม่ส่งผลโดยตรงต่อการจัดอันดับ แต่ก็เป็นตัวหลักสำคัญของเทรนด์ SEO ในปี 2013

 4. Content marketing

 ก่อนหน้านี้การทำการตลาดด้วยเนื้อหาข้อมูลมีวัตถุประสงค์เพื่อการใส่ลิงค์เพื่อดึงผู้ชมไปที่เว็บไซต์และเพิ่มประโยชน์ให้กับผู้ใช้ แต่ปัจจุบันสิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็น “SEO แบบใหม่” เนื้อหาที่ให้ความรู้ที่น่าสนใจ มีประโยชน์ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากโซเชียลเนทเวิร์คจะได้รับการจัดอันดับที่ดี

 5. การระบุพื้นที่

 โดยเฉลี่ยแล้ว 40% ของการค้นหาข้อมูล มีจุดประสงค์เพื่อการค้นหาข้อมูลที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่นร้านอาหารในพื้นที่หนึ่งๆ เป็นต้น การใส่ข้อมูลแผนที่ การอ้างอิง รีวิวเกี่ยวกับพื้นที่เฉพาะลงในเว็บไซต์ จะช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาข้อมูลได้ง่ายและตรงใจมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มการมองเห็นและอันดับใน Search engine อีกด้วย

 6. สถิติด้าน Social

 จำนวนการ Like, Share หรือ Retweet ต่างๆจะมีส่วนสำคัญมากต่อ SEO เพราะแสดงถึงคุณภาพและความนิยมของบทความนั้นๆ บทความที่ได้รับการแชร์ต่อหรือได้ผลตอบรับที่ดีต่างๆจากโซเชียลเนทเวิร์คจะมีผลดีอย่างมากต่ออันกับใน Search engine

ที่มา: http://blog.th.88db.com/?p=35420

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ติดอันดับในผลการค้นหาหน้าแรกของ Google


กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับในเครื่องมือค้นหาเรืยกเป็นภาษาอังกฤษว่า Search Engine Optimization หรือ SEO โดยที่เครื่องมือค้นหาในประเทศไทยที่นิยมที่สุดก็คือ Google ดังนั้นการทำ SEO ในไทยก็คือการทำให้ Google รู้จักเว็บไซต์เราและจัดอันดับให้เว็ยเราอยู่ในผลการค้นหาหน้าแรกนั่นเอง

การปรับแต่งเว็บไซต์ที่ทาง Webmaster สามารถปรับแต่ได้เองคือ
  • โครงสร้างของเว็บไซต์ (Website Structure)
  • เนื้อหาของเว็บไซต์ (Website Content)
  • การเชื่อมโยง(Link) ออกไปยังเว็บไซต์อื่น (Outbound-Links)
พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ความสำคัญของอันดับผลการค้นหาจาก Google


ทุกวันนี้เราใช้ Google ในการค้นหาแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหาเว็บไซต์ ความรู้ สินค้า บริการ หรือแม้แต่หาคู่ก็ตาม และพฤติกรรมของคนก่อนที่จะซื้อสินค้าหรือบริการ ก็มักจะค้นหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจซื้อเสมอ
Google เป็นเครื่องมือที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้ค้นหาข้องมูลในอินเตอร์ ดังนั้นหากหน้าเว็บไซต์ของสินค้าหรือบริการของเรา ติดหน้าแรกในการค้นหา ก็จะเพิ่มโอกาสให้คนที่ต้องการสินค้าและบริการมาเป็นลูกค้าของเราได้มากขึ้น
การติดอันดับในหน้าแรกของ  Google นั้นมีความสำคัญมากเพราะ

  1. ผู้ใช้ทั่วไปมักจะคลิ๊ก 1 ใน 3 อันดับแรกของการค้นหาโดยไม่ดูว่าเป็นข้อมูลตามที่ต้องการหรือไม่
  2. หน้าแรกเป็นหน้าที่ผู้ใช้ดูผลการค้นหามากที่สุด และอาจจะดูผลการค้นหาเพิ่มอีกเพียง 1-2 หน้าเท่านั้น
ดังนั้นทำอย่างไรล่ะ ถึงจะทำให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรก?

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ใช้ Google เช็คสินค้าที่ลูกค้านิยมค้นหา

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังหาสินค้ามาขายออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม วันนี้ผมจะแนะนำวิธีการง่ายๆ ที่สามารถเช็คได้ว่าช่วงเวลานี้ผู้คนกำลังคนหาอะไรในอินเตอร์เน็ต โดยให้เข้าไปที่ Google แล้วพิมพ์ที่ช่องค้นหาว่าขาย และเคาะวรรค 1 ครั้ง หลังจากนั้นให้พิพม์ตัวอักษรไล่ตั้งแต่ ก-ฮ แล้วดูว่า Google แนะนำคำค้นหาว่าอะไร เช่น พิมพ์คำว่าขายตามด้วยกอไก่ Google ก็จะแนะนำคำว่ากระเป๋า กระจก กระรอก

ลองทำดูนะครับ คุณอาจจะเห็นว่าอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่น่าขายได้ก็ยังมีเอามาขายในเน็ตได้เลย

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

ความรู้ E-Commerce ร้อนๆ พร้อมเสริฟให้ท่านถึงบ้าน

DBD e-Commerce
สำหรับผู้ประกอบการที่มีความสนใจในการทำธุรกิจ E-Commerce ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพานิชย์ ได้จัดทำ Youtube Channel DBD e-Commerce ขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ e-Commerce ให้กับผู้ที่สนใจ โดยทางกรมฯ จะนำวีดีโอที่ถ่ายจากการอบรม/สัมมนาต่างๆ ที่กรมจัดขึ้นมาเผยแพร่ให้ผู้สนใจได้ศึกษาหาความรู้ ซึ่งปัจจุบันมีเนื้อหาที่น่าสนใจต่างๆ ดังนี้
พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ลักษณะของเว็บไซต์ที่ดีมีอะไรบ้าง

  1. ช่วยให้ผู้ใช้ได้สิ่งที่ต้องการ มีการออกแบบเว็บซึ่งใส่ใจในเรื่องของการใช้งาน รูปแบบของเว็บ ควรจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับสิ่งที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้กลับเข้ามาใช้บริการในเว็บบ่อยๆ โฮมเพจของเว็บไซต์มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้งานตัดสินใจที่จะเข้าไปดูข้อมูลส่วนต่างๆต่อไป หรือคลิกปิดเว็บไซต์ โฮมเพจควรมีการจัดหมวดหมู่ประเภทข้อมูลให้ค้นหาง่าย
  2. แสดงถึงจุดประสงค์และหน้าที่ของเว็บอย่างชัดเจน ควรวางแผนให้ดีตั้งแต่ก่อนการสร้างเว็บไซต์ เช่นเว็บไซต์นี้มีเพื่อจำหน่ายสินค้า เป็นเว็บ e-commerce หรือ มีไว้เพื่อแนะนำสินค้าหรือบริการ หรือมีไว้เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อระหว่างลูกค้าและผู้ขาย เป็นต้น ผู้เข้าขมเว็บควรทราบได้ในทันทีถึงสิ่งที่เว็บไซต์ต้องการนำเสนอหรือบริการที่เว็บไซต์มอบให้
  3. เป็นไปตามรูปแบบมาตรฐานสากล เว็บไซต์มีระบบการใช้งานที่ใกล้เคียงกับเว็บอื่นทั่วๆไป ควรสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานแล้วตรงกับความคาดคิดของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้ใช้งานได้ทันที การเชื่อมโยงไปส่วนต่างๆของเว็บไม่ควรมีความสลับซับซ้อนและผิดความคาดหมายของผู้ใช้
  4. แสดงผลได้อย่างรวดเร็ว เว็บเพจแต่ละหน้าควรจะปรากฎผลข้อมูลขึ้นมาบนจออย่างรวดเร็ว ต้องหาจุดที่เหมาะสมระหว่างจำนวนของสิ่งที่จะใส่ลงไปในเว็บไซต์กับระยะเวลาที่ผู้ใช้ต้องรอ
  5. แสดงผลได้ดีในอุปกรณ์ที่ต่างกัน เช่น คอมพิวเตอร์ มอนิเตอร์ เบราเซอร์ต่างชนิดกัน หรือกี่เรียกว่าการสร้างเว็บไซต์แบบ Responsive layout หมายถึงการอกกแบบเว็บไซต์แบบเดียวที่จะทำให้เว็บนั้นใช้งานได้ในทุกสิ่งแวดล้อม การออกแบบการใช้งานจะต้องปรับเปลี่ยนไปในแต่ละอุปกรณ์ เช่น เพิ่มขนาดปุ่มกดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานจากโทรศัพท์มือถือ
  6. มีสไตล์ มีความสวยงาม นอกจากการออกแบบระบบ โปรแกรมต่างๆในเว็บไซต์แล้ว คุณไม่ควรเพิกเฉยต่อดีไซน์ของเว็บไซต์เช่นเดียวกัน ดีไซน์ที่สวยงาม น่าอ่านจะทำให้เว็บไซต์ดูน่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ และดูทันสมัย
ที่มา: http://blog.th.88db.com/?p=35426

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เทคนิคการเลือกสินค้ามาขายออนไลน์


  1. สินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด
  2. สินค้าเฉพาะกลุ่ม
  3. สินค้าที่ผู้ซื้อไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน
  4. สินค้าแฮนเมด สินค้าลักษณะเฉพาะ
  5. สินค้าที่มีน้ำหนักเบา
  6. สิ้นค้าที่มีเรื่องราว
พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs


วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

10 เหตุผลของการนำธุรกิจมาเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต

  1. เพื่อให้ธุรกิจของตนเองพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทางอินเทอร์เน็ต
  2. เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างเครือข่ายของธุรกิจ
  3. เพื่อให้ข้อมูลของบริษัทพร้อมให้ลูกค้าเข้ามาค้นหาได้
  4. เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า
  5. ขยายผลและขอบเขตการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น
  6. ขจัดปัญหาด้านเวลาดำเนินการของธุรกิจ
  7. การขายสินค้าหรือบริการ
  8. การนำเสนอข้อมูลของธุรกิจแบบ Multi-media
  9. การเข้าสู่ตลาดที่ลูกค้ามีความต้องการบริโภคสินค้าสูง (Highly Desirable Demographic Market)
  10. การตอบคำถามของลูกค้าที่เกิดขึ้นบ่อยๆ (Frequently Asked Questions)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.igetweb.com/igetweb/main/detail.php?type=tip&pid=32

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

KappUP “ทำแอพได้ง่าย... ใครๆก็ทำ”


จากยุคแห่งการสื่อสารไร้พรมแดนทำให้วิถีชีวิตของของเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งสอดคล้องจากการสำรวจพบว่าคนไทยมีจำนวนผู้ใช้ Smart Phone สูงถึง 66% สำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นการแชท แชร์ ชอปปิ้ง และอื่นๆ ส่งผลให้ภาคธุรกิจเกิดการแข่งขันกันสูงและมุ่งเน้นทำการตลาดออนไลน์สูงขึ้น และอีกเครื่องมือหนึ่งอันทรงประสิทธิภาพที่ธุรกิจสมัยใหม่กำลังให้ความนิยมคือ Mobile Application หรือ Application

Mobile Application นับได้ว่าเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งอันทรงประสิทธิภาพที่นักการตลาดสมัยใหม่ให้ความนิยมในการทำการตลาดออนไลน์ และสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าของยี่ห้อสินค้านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มภาพลักษณ์ กระตุ้นยอดขาย  และสร้างฐานข้อมูลลูกค้าได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามการทำแอพพลิเคชั่นนั้นมีความยุ่งยาก และมีค่าใช้จ่ายสูงมากจึงเป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น

สำหรับธุรกิจ SMEs ที่อยากมีแอพเป็นของตัวเอง แต่มีคำถาม แต่แพง แต่ยาก แต่ แต่ แล้วก็แต่... มีแต่คำว่า "แต่" แต่วันนี้ KappUP จะทำให้คุณมี Mobile Application ได้ง่ายๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และเป็นแบรนด์ของท่านเองได้เพียง 9,000 บ. ต่อปี (750 บ. ต่อเดือน) แล้วข้อจำกัดคำว่า "แต่" ของคุณจะหายไป

KappUP มาพร้อมกับเครื่องมือการตลาดออนไลน์แบบจัดเต็ม อาทิ
  • ระบบ Push Notification คือ ระบบช่วยให้สื่อสาร แจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น ไปยังลูกค้าแม้ไม่ได้เปิดแอพพลิเคชั่น
  • ระบบ K-Marketing ประกอบด้วยระบบช่วยเหลือด้านการตลาด เช่น รายการสินค้า ที่อยู่ร้านค้า การนำทางมาร้านค้า และระบบ Direct call เพียงแค่คลิกเดียว การสร้างฟอร์ม สะสมแต้ม ฐานข้อมูล ฯลฯ
KappUP รองรับทั้ง iOS และ Android และยังมีระบบช่วยเหลือตลอดอายุสัญญาอีกด้วย

พิเศษ! สมัครวันนี้ร่วมอบรมพัฒนาเทคนิคการทำแอพด้วย KappUP 1 ครั้ง ฟรี!! (มูลค่า 3,000 บ.)
สมัครและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.kappup.com , www.facebook.com/KappUP หรือ สายด่วนโทร. 083 591 9494

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Remarketing คืออะไร

ในกระบวนการซื้อสินค้าออนไลน์ มีบ่อยครั้งที่ลูกค้าเปลี่ยนใจไม่ซื้อสินค้า เช่นกำลังทำรายการสั่งซื้ออยู่ แต่ขั้นตอนสุดท้ายที่เป็นการจ่ายเงิน กลับเปลี่ยนใจซะก่อน อาจเป็นเพราะว่าตัดบัตรเครดิตไม่ผ่าน หรือเว็บมีปัญหา หรือลูกค้าเปลี่ยนใจจริงๆ แล้วก็ไม่ได้กลับมาที่เว็บเราอีก ซึ่งน่าเสียดายคนกลุ่มนี้มาก

Remarketing หมายถึงการทำตลาดซำ้กับคนกลุ่มเดิมให้กลับมาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้งโดยการส่งเสริมการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้เกิดความต้องการขึ้นมาใหม่
ซึ่งปัจจุบันหากเราเคยเข้าไปทำการสั่งซื้อแต่ไม่สำเสร็จ หรือแม้แต่แค่เข้าไปดูสินค้าในเว็บใดเว็บแล้วยังไม่ได้สั่งซื้อก็ตาม หากเว็บนั้นทำ Remarketing โฆษณาของเว็บนั้นก็จะตามเราไปทุกๆ เว็บที่เราไปเยี่ยมชม โดยที่อาจจะเสนอส่วนลดที่เพิ่มขึ้น เพื่อดึงดูดให้เรากลับไปสั่งซื้อสินค้าอีกครั้งหนึ่ง

ตัวอย่างที่ผู้เขียนเคยพบก็คือเว็บไซต์ขายประกันภัยรถยนต์ ผู้เขียนได้เข้าไปเพื่อเช็คราคาแต่ไม่ได้ทำการสั่งซื้อ เมื่อผู้เขียนไปที่เว็บใดก็ตาม ก็จะมีโฆษณาของบริษัทนั้นตามมาให้เห็นตลอด ไม่เว้นแม้กระทั่งในฟีดข่าวของ Facebook

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จาก http://www.google.com/ads/innovations/remarketing.html

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แจ้งเตือนแอพปลอมจากธนาคารกรุงเทพ


แจ้งเตือน! ขณะนี้มีแอพพลิเคชั่นปลอมที่แอบอ้างว่าเป็น ‘Internet Banking Application’ หรือ ‘Mobile Banking Application’ ของธนาคารกรุงเทพ บน Google Play Store ของระบบปฏิบัติการ Android

ธนาคารกรุงเทพใคร่ขอชี้แจงวิธีตรวจสอบแอพพลิเคชั่นที่ถูกต้องของธนาคาร โดยสังเกตได้จาก
  • แอพพลิเคชั่นของธนาคารชื่อ “Bualuang mBanking” เท่านั้น
  • ไอคอนของแอพพลิเคชั่นซึ่งจะมีรูปแบบตามตัวอย่างด้านล่าง เท่านั้น
  • ชื่อผู้พัฒนา (Developer) จะต้องเป็น “Bangkok Bank PCL” เท่านั้น

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Google Business View คืออะไรช่วยธุรกิจคุณได้อย่างไร


หลังจากที่ประเทศไทยได้ใช้ Google Street View มาสักระยะหนึ่งแล้ว โดย Google ได้ใช้รถที่มีกล้องถ่าย 360 องศา โดยได้ทำแทบทุกถนนในประเทศไทย ทำให้เวลาสามารถเห็นภาพจริงในสถานที่ที่เราอยากจะไปได้เหมือนกับเราไปยืนอยู่ตรงนั้น

ปัจจุบัน Google ได้เปิดโอกาสให้ธุรกิจได้ใช้เทคโนโลยีของ Google Street View เพื่อถ่ายภาพแบบ 360 องศาในอาคาร โดยเรียกบริการนี้ว่า Google Business View ซึ่งจะมีประโยชน์สำหรับหลายๆ ธุรกิจเช่น สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และอื่นๆ

Google Business View จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาดูสถานที่ของเราได้จากที่บ้าน แต่เหมือนกับอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ  ทำให้ธุรกิจสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

หากท่านใดสนใจอยากทรารายละเอียดเพิ่มเติมให้ดูข้อมูลได้
https://www.google.com/intl/th/maps/about/partners/businessview

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่  Easy IT. For SMEs

วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

1 ใน 3 ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลสินค้าผ่านโมบายล์

ในแหล่งข้อมูลเพื่อที่จะซื้อสินค้าหรือพิจารณาซื้อในทุกวันนี้ในยุคนี้อยู่บนอินเทอร์เน็ตแทบทั้งสิ้น และเครื่องมือที่จะทำให้เข้าถึงในยุคสมัยนี้ก็คือคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ตอนนี้ยอดการค้นหาผ่านโมบายล์เกิน 1 ใน 3 แล้ว

ทาง GlobalWebIndex ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขเกี่ยวกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตในการค้นหาสินค้าและบริการในตอนนี้ โดยในระดับผู้ใช้งานทั่วโลกตอนนี้ มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากถึง 74% ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลเพื่อซื้อสินค้า

แต่เมื่อมาดูในระดับการใช้งานที่พิจารณาเฉพาะด้านโมบายล์ ตัวเลขมีการเพิ่มขึ้นจาก 30% ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 4 ปี 2012 มาเป็น 34% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2013 โดยถ้าเทียบเป็นจำนวนคนก็คือการเพิ่มจาก 480 ล้านคนในปี 2012 เป็น 615 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นเร็วมากใน 1 ปี

ตัวเลขนี้บอกอะไรเรานอกจากเราอยู่ในยุคออนไลน์และโมบายล์เป็นใหญ่แล้ว คนที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่เป็นคนจัดหาข้อมูลเพื่อรองรับการค้นหาก็ควรต้องต้องมีการปรับปรุงเว็บไซต์ให้รองรับ Responsive เพื่อเปิดกับอุปกรณ์ทุกประเภทด้วย รวมไปถึงการนึกถึงการใช้งาน User Experience อีกด้วยครับ

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs


วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

3D Printing เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก


ปัจจุบันนี้เราแทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แต่ละวันที่ผ่านไปล้วนแต่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การพัฒนาด้วยเทคโนโลยีแบบที่เรียกว่าก้าวกระโดดทำให้เรามีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย และตอบสนองความต้องการในหลายๆ ด้าน

       ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่ดูเหมือนว่าจะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์เรานั้นก็คงจะเป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่า “3D Printer” เมื่อไม่นานมานี้เองประมาณสักปลายปีที่แล้ว อุปกรณ์ชนิดนี้ถูกจับตามองว่าเป็นเทคโนโลยี ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกเลยทีเดียว โดยนิตยาสาร “Forbes” ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ระบุไว้ในคอลัมน์ capital flows ว่า “3D Printers Will Soon Change The World, If It's Not Strangled In A Lawyered Up World” เนื้อหาด้านในของบทความมีการกล่าวถึงการใช้เทคโนโลยี 3D Printer ในอุตสาหกรรมด้านต่างๆ เช่น การผลิตอาหาร,เครื่องประดับ,สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ และสินค้าที่มีรูปทรงการออกแบบ แบบจำเพาะ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถผลิตได้เองที่บ้าน และยังสามารถ พัฒนาไปเป็นธุรกิจขนาดย่อมๆได้อีกด้วย

        นอกจากนี้ในบทความยังกล่าวถึงเว็บไซต์หนึ่งที่ชื่อว่า “Thingiverse” เป็นเว็บที่รวบรวมและแบ่งปัน ไฟล์ข้อมูลสามมิติ เพื่อที่จะนำไปผลิตด้วยเครื่อง 3D Printer ถึงตรงนี้คุณผู้อ่านเริ่มมองเห็นอนาคตอันใกล้นี้เหมือนผมแล้วใช่ไหมครับว่า อีกหน่อยเวลาเราจะซื้อ จะหาอุปกรณ์ หรือสินค้า ประเภทใดประเภทหนึ่งมาใช้สักชิ้น เราคงไม่ต้องออกไปข้างนอก เผชิญกับสภาพการจราจรแออัดและผู้คนที่พลุกพล่านกันอีกต่อไป คุณเพียงแค่เข้าไปดาวโหลด สิ่งที่คุณต้องการในอินเตอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นกรอบโทรศัพท์ไอโฟน 5c,5s หรือจะเป็นพวงกุนแจเก๋ๆ สักอัน คุณสามารถปริ้นเองได้ที่บ้าน เพียงไม่นานอาจจิบกาแฟคาปูชิโนสักแก้วรอ พร้อมๆ กับการชมรายการทีวี เพียงเท่านี้ คุณก็จะพบกับชิ้นงานสำเร็จบนเครื่องปริ้นของคุณ และอย่าลืมเอาไปโชว์เพื่อนที่ทำงานของคุณในเช้าวันจันทร์ด้วยล่ะ อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ที่คุณสามารถจะเข้าไปดาวโหลด ข้อมูลไฟล์สามมิตินี้ก็มีกันอยู่หลายช่องทาง สามารถหาข้อมูลผ่านทาง google ดูก่อนก็ได้ครับ ส่วนไฟล์ที่เขานำมาแบ่งปันกัน ก็เกิดจากการที่กลุ่มคนรักและชื่นชอบในเทคโนโลยีการปริ้นแบบสามมิติ เขารวมตัวเอาผลงานที่ตนเองได้ออกแบบมาแลกเปลี่ยนกัน จึงทำให้มีไอเดียที่แปลกและหลากหลายอยู่มาก
        แทบจะไม่แปลกใจเลยกับการที่นิตยสารชั้นนำของอเมริกา ออกมาคล้ายๆ กัน เตือนว่าเทคโนโลยี 3D Printer จะเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ และโลก...โลกของการผลิต โลกของการซื้อขายและ โลกของการออกแบบ ต่อไปนี้เมื่อคุณคิดอยากจะได้อุปกรณ์อะไรสักชิ้น คุณก็ไม่จำเป็นต้องรอให้มีคนผลิตของออกมาก่อน แล้วก็รอของที่ผลิตออกมาขาย จากนั้นก็ไปซื้อมาใช้กัน ไม่ว่าของที่ซื้อมานั้นจะตอบสนองความต้องการของคุณได้มากน้อยแค่ไหน แต่คุณก็ต้องใช้ของสิ่งนั้นอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ เพียงเพราะว่าคุณไม่สามารถผลิตได้เอง....

ที่มา: http://goo.gl/R708co

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โซเชียลมีเดียสำหรับธุรกิจ #เอสเอ็มอี


ปัจจุบันผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตของไทยอยู่ที่ 25 ล้านคนแล้ว มีคนใช้อินเตอร์เน็ตทุกเพศทุกวัยโดยแบ่งตามช่วงอายุได้ดังนี้ อายุ 12-17 ปี 32% อายุ 18-23 ปี 24% อายุ 24-35 ปี 23% จะเห็นว่าผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 80% เป็นคนที่อายุไม่เกิน 35 ปี

ในกรุงเทพฯมีผู้ใช้งาน Facebook ถึง 18 ล้านคน ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่มีคนใช้งาน Facebook มากที่สุดในโลก โดยยอดใช้งานทั่วประเทศมีถึง 23 ล้านคน

ธุรกิจใหญ่ๆ มีเงินที่จะโฆษณาในสื่อเช่นทีวี หนังสือพิมพ์ วิทยุ แต่ธุรกิจเอสเอ็มอีคงไม่มีงบประมาณถึงขนาดนั้น ดังนั้นการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์จึงเป็นวิธีการที่ประหยัดที่สุด โดยเริ่มจาก
  1. สร้างเว็บด้วยเว็บสำเร็จรูปก่อน TARAD, WeLoveShopping, Lnwshop, Bentoweb ฯลฯ ถ้าไม่มีเว็บ ไม่มีหน้าร้าน เราจะดึงคนไปซื้อของลำบากมาก
  2. สร้าง Social Media (Facebook Page, Twitter Account, Instagram Account)
  3. เรียนรู้นิสัยคนบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะลูกค้าของคุณ
  4. เรียนรู้วิธีการทำการตลาดผ่าน Website, Mobile site, Search Engine Marketing, Social Media, YouTube, Blog, Forum, Email marketing
  5. มุ่งเน้นที่การสร้างความน่าเชื่อถือ การเก็บเงินที่มีประสิทธิภาพ การติดต่อสื่อสารที่ว่องไว สร้างการซื้อซ้ำ สร้างแฟนประจำของสินค้าและบริการของเรา ด้วยต้นทุนที่ต่ำและได้ประโยชน์สูง
ที่ต้องเน้น Social Media เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ผู้บริโภคมักพูดถึงแบรนด์ของคุณผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ธุรกิจจำเป็นที่จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับการสนทนานั้นๆ

ปัจจุบันคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่หมดเวลาไปกับการใช้ Social Media ชอบตามกระแส เสียงของผู้บริโภคมีพลังมากขึ้น เพราะหากไม่พอใจสินค้าอะไรก็สามารถที่จะร้องเรียนผ่านวื่อออนไลน์เช่นพันทิปได้ทันที ต้องการสื่อความต้องการของตัวเองกับแบรนด์ ต้องการได้ยิน “Story” ก่อนขาย มีทางเลือกเยอะ และมีวิธีการเลือกสินค้าและบริการที่ดีขึ้น

พฤติกรรมที่คนที่ใช้อินเตอร์เน็ตทำก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าก็คือการค้นหารีวิวจากบทความใน Blog Youtube Facebook ความเห็นของคนบนเว็บบอร์ด ตามดูรูปสวยๆ ใน Instagram

ผู้บริโภคสมัยใหม่ต้องการให้เราฟังเขา ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ และต้องการฟังเรื่องราวที่น่าสนใจจากคุณ พวกเขาจะค้นหาข้อมูลข้อมูลสินค้าและบริการจาก Google ก่อนซื้อ ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องเครื่องมือยุคดิจิตอลในการเข้าถึงลูกค้า

ดังนั้น อย่าลืมศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม โดยเริ่มจากทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นนะครับ

ที่มา: http://www.slideshare.net/jakrapong/social-media-for-sme-28568839

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทำอย่างไรให้ธุรกิจของคุณอยู่ในผลการค้นหาของ Google Maps


ปัจจุบันผู้คนที่ใช้ Google ไม่ได้ค้นหาเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว ยังคนหาสถานที่เช่นร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด ปั้มแก๊สที่ใกล้ที่สุดเป็นต้น ดังนั้นนอกจากที่เราจะต้องปรับแต่งเว็บให้อยู่ในผลการค้นหาหน้าแร                                                                                          
กของ Google หรือเรียกว่า SEO แล้ว เรายังจำเป็นต้องใส่ธุรกิจของเราให้อยู่ในผลการค้นหาของ Google Maps อีกด้วย

ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้อยากมากนักเพียงแค่ไปลงทะเบียนที่ www.google.com/business/placesforbusiness และทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ ยิ่งถ้ามีบัญชี Gmail อยู่แล้วก็สามารถลงชื่อใช้ได้เลย เมื่อ Google อนุมัติแล้ว ธุรกิจของเราก็จะปรากฏในผลการค้นหาของ Google ดังรูป และถ้าเป็นการค้นหาในมือถือ ผลการค้นหาจะสามารถเห็นปุ่มโทรออกและปุ่มเส้นทาง ซึ่งสะดวกกับผู้ใช้มาก และยังมีข้อมูลในส่วนของ ที่อยู่ สถานที่ตั้ง เวลาเปิดปิด รูปภาพ รีวิวจากลูกค้า อีกด้วย

ธุรกิจของคุณล่ะ อยู่ผลการค้นหาของ Google Maps หรือยัง

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยสื่อสังคมออนไลน์



เดิมหากธุรกิจต้องทราบพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยข้อมูลเชิงลึกหรือที่เรียกว่า Consumer Insight ธุรกิจจะต้องดำเนินการวิจัยตลาด (Market Research) เพื่อที่จะได้ข้อมูลผู้บริโภคในเชิงลึกตามวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ

ปัจจุบันผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยมีจำนวนมากกว่า 20 ล้านคน และผู้บริโภคมักจะจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในสื่อสังคมออนไลน์ เช่น การโพสต์ข้อความ การแชร์รูปภาพหรือความเห็น การค้นหา เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้เป็นข้อมูลสำคัญที่เราสามารถจะนำมาใช้วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าด้วยข้อมูลเชิงลึกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ได้

เหตุผลที่นักวิจัยตลาดนิยมใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค

  1. ความถูกต้อง ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ กิจกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และที่สำคัญ เป็นข้อมูลขนาดใหญ่ ดังนั้นข้อมูลเชิงลึกในสื่อสังคมออนไลน์จึงมีความถูกต้องและสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคโดยรวมได้ ที่สำคัญ นักวิจัยฯ ยังสามารถติดต่อสือสารโดยตรงกับผู้บริโภคเพื่อเจาะลึกข้อมูลที่ต้องการได้อีกด้วย
  2. เวลา นักวิจัยฯ สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคได้ทันที เพราะข้อมูลออนไลน์อยู่แล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับการวิจัยฯ แบบดั้งเดิมที่ต้องลงภาคสนาม (Fieldwork) แล้วการวิจัยฯผ่านสื่อออนไลน์นี้มีประสิทธิภาพสูงกว่ารวดเร็วกว่าและที่สำคัญข้อมูลถูกต้องอีกด้วย ซึ่งสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า
  3. เข้าถึง สื่อสังคมออนไลน์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ไร้พรมแดน ทำให้ทราบข้อมูลเชิงลึกของประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ต้องเดินทางไปทำวิจัย เป็นต้น อย่างไรก็ตามในบางประเทศ หรือประเทศไทย อาจเข้าถึงกลุ่มตัวอย่างที่เป็นต่างจังหวัดหรือผู้สูงอายุได้ยาก
เพียงเหตุผลข้างต้น นักวิจัยตลาดจึงให้ความสำคัญกับสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้นและทดแทนการวิจัยตลาดแบบดั้งเดิม

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ http://goo.gl/vgozdG

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เตือนภัยไวรัสบนมือถือจากธนาคารกรุงเทพ


ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพส่ง SMS หรืออีเมลหลอกลวง หรือจัดทำหน้าจอ (pop-up) โดยแอบอ้างว่าเป็นธนาคาร ให้ผู้รับกรอกข้อมูลส่วนตัว ดาวน์โหลด หรือติดตั้งโปรแกรมลงบนโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวมีไวรัส/ โทรจันที่สามารถขโมยรหัสส่วนตัว รหัสลับ และรหัสผ่านครั้งเดียว (OTP) ที่ส่งทาง SMS เพื่อใช้ลักลอบเข้าทำธุรกรรมโอนเงินออกจากบัญชีของท่านผ่านบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต โดยที่ท่านไม่ทราบ เพราะจะไม่ได้รับ SMS แจ้ง OTP แต่อย่างใด

เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ผ่านอุปกรณ์ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ธนาคารขอให้ท่านปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ (URL) ที่ส่งมากับ SMS หรืออีเมล หรือหน้าจอ (pop-up) หลอกลวงข้างต้น
  • หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลด หรือติดตั้งโปรแกรมจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
  • หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอุปกรณ์ที่ได้รับการดัดแปลงระบบปฏิบัติการ (jail break สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS และ root สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์)
  • ติดตั้งแอพพลิเคชั่นป้องกันไวรัสบนโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะที่ใช้ทำธุรกรรมออนไลน์

ธนาคารขอยืนยันว่า ธนาคารไม่มีนโยบายส่ง SMS หรืออีเมล เพื่อขอให้ท่านดาวน์โหลดหรือติดตั้งโปรแกรมใดๆ สำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคาร หรือจัดทำหน้าจอ (pop-up) เพื่อให้ท่านกรอกข้อมูลส่วนตัว ดังนั้น หากท่านได้รับ SMS หรืออีเมลในทำนองดังกล่าว หรือได้ทำการคลิกลิงก์เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรมที่ต้องสงสัยไปแล้ว หรือพบหน้าจอหรือข้อความที่ไม่คุ้นเคย หรือผิดไปจากปกติ ให้หยุดทำรายการทันที โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารทันทีที่บัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ (66) 0-2645-5555 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทดลองแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์เสมือนจากแคตาล็อก IKEA


หลายคนคงเคยประสบปัญหากับการซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแล้วไม่เข้ากับห้อง ไม่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ หรือขนาดไม่พอดี การดูเพียงแค่แคตาล็อกหรือดูผ่านเว็บ แม้แต่การไปดูสินค้าจริงที่ร้าน ก็อาจพลาดได้เช่นกัน


IKEA ได้ออกแอพ IKEA Catalogue มาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยใช้ร่วมกับเล่มแคตาล็อกของ IKEA โดยลูกค้าสามารถเห็นภาพเฟอร์นิเจอร์ 3D ขนาดเท่าของจริงซ้อนกับภาพห้องที่วางเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นเหมาะกับสภาพแวดล้อมของห้องหรือเปล่า

วิธีการใช้ก็ไม่ยุ่งยากเพียงแค่แสกนสัญลักษณ์ที่หน้าแคตาล็อกของเฟอร์นิเจอร์ที่เราสนใจ หลังจากนั้นให้เอาแคตาล็อกเล่มนั้นไปวางในที่ๆ เราต้องการวางเฟอร์นิเจอร์ แล้วนำสมาร์ทโฟนไปส่องให้เห็นแคตาล็อกเล่มนั้น สักพักจะมีภาพเฟอร์นิเจอร์ 3D ขึ้นมา ณ ตำแหน่งที่วางแคตาล็อก

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs