วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ลดต้นทุนให้กับธุรกิจด้วย Thin Client


Thin Client คือการลดขนาดและคุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นเครื่องลูกข่ายให้เหมาะสมกับงาน โดย Thin Client จะไม่มีฮาร์ดดิสก์ ลดสเปคของ CPU และ RAM หรืออาจมีแค่เพียงจอ Monitor เพียงอย่างเดียว โดยจะไปใช้งาน CPU ผ่านเซิร์ฟเวอร์แทน โดยติดตั้งซอฟต์แวร์และระบบปฎิษัติการไว้ที่เซิร์ฟเวอร์เพื่อให้เครื่อง Thin Client เข้ามาใช้งานที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์

ราคาของเครื่อง Thin Client นั้นถูกกว่าซื้อคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะปกติ กินไฟน้อยกว่า ดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เครื่องผู้ใช้งาน ลดงานของผู้ดูแลระบบ

ทำให้องค์กรที่เปลี่ยนมาใช้เครื่อง Thin Client จะสามารถลดต้นทุนได้

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

Inbound Marketing VS Outbound Marketing


ในยุคปัจจุบันเป็นยุคที่ลูกค้าเป็นใหญ่ ลูกค้าเป็นผู้เลือก ลูกค้าสามารถเลือกที่จะรับหรือไม่รับสื่อได้ ดังนั้นการตลาดแบบเก่า (Outbound Marketing ) ที่เน้นการผลักสื่อไปหาลูกค้าจะเริ่มไม่ได้ผลอีกต่อไป

พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ก่อนซื้อสินค้าหรือบริการ มักจะทำการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต สอบถามเพื่อนทางโซเชียลมีเดีย อ่าน Blog อ่านรีวิว ดังนั้นนักการตลาดจำเป็นต้องปรับมาใช้การตลาดแบบใหม่ที่เรียกว่า Inbound Marketing

เปรียบเทียบการตลาดแบบ Inbound กับ Outbound

Inbound Marketing
  • สื่อสาร 2 ทาง
  • ลูกค้าเป็นค้นหาสิ่งที่เขาต้องการผ่านกูเกิ้ล เว็บรีวิว พันทิบ โซเชียลมีเดีย
  • นักการตลาดมีหน้าที่สร้างมูลค่าเพิ่ม
  • นักการตลาดต้องหาความบันเทิงและ/หรือความรู้ให้กับลูกค้า
Outbound Marketing
  • สื่อสารทางเดียว
  • ลูกค้าไม่สนใจโฆษณาจากสื่อสิ่งพิมพ์ ทีวี วิทยุ ป้ายโฆษณา
  • นักการตลาดไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม
  • นักการตลาดไม่ค่อยจะหาความบันเทิงหรือความรู้ให้กับลูกค้า
พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

ทางเลือกใหม่สำหรับเอสเอ็มอี กับการส่งสินค้าทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ


ปัจจุบันธุรกิจ E-Commerce ในบ้านเราเติบโตเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการซื้อขายออนไลน์มากมาย ธุรกิจการรับขนส่งสินค้าก็เติบโตไปด้วยกัน ซึ่งปัจจบันมีบริษัทให้เลือกมากมาย

“เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง (SME Shipping)” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ด้วยบริการรับพัสดุภัณฑ์ถึงหน้าประตูบ้าน (Door to Door Service) และให้คำปรึกษาทุกเรื่องด้านการขนส่ง ทำให้ลูกค้าประหยัดต้นทุนในการขนส่งมากที่สุด 

รูปแบบการบริการของเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง มีทั้งหมด 7 ประเภท
1. บริการส่งเอกสารด่วนไปต่างประเทศ 
2. บริการส่งพัสดุด่วนไปต่างประเทศ 
3. บริการส่งพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ 
4. บริการขนส่งทางเรือไปต่างประเทศ 
5. บริการขนส่งทางรถไปต่างประเทศ 
6. บริการขนส่งภายในประเทศ 
7. บริการสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

สำหรับผู้ที่สนใจขายสินค้าผ่านอีเบย์และอะเมซอน ทางบริษัทได้เปิดสถาบันสอนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ “อีโนว์เลจเซ็นเตอร์” สอนโดยอาจารย์ระดับประเทศให้อีกด้วย

สนใจติดต่อ 0-2105-7777 หรือที่ www.smeshipping.com

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

ตรวจสอบสถานะสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ผ่านแอพ


สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องใช้บริการส่งของทางไปรษณีย์ นอกจากจะตรวจสอบสถานะการส่งได้ที่ http://track.thailandpost.co.th/trackinternet/Default.aspx แล้ว ยังสามารถตรวจสอบสถานะการส่งได้ทางแอพ Thailand Post Track & Trace อีกด้วย

Thailand Post Track & Trace เป็นโปรแกรมอย่างเป็นทางการของระบบ Track and Trace บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน ให้สามารถติดตามตรวจสอบสถานะสิ่งของทางไปรษณีย์ เช่น ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ(EMS), ลงทะเบียน(Registered) โลจิสโพสต์ในประเทศ (LogisPost) และ พัสดุระหว่างประเทศ (International Parcel) ได้อย่างง่ายดาย

- สามารถติดตามตรวจสอบสิ่งของได้หลายชิ้น และแสดงสรุป “สถานะ” ล่าสุดของสิ่งของแต่ละชิ้นได้ที่หน้าจอหลัก ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายในการติดตามสิ่งของ
- การแจ้งเตือน (Push Notification)
- สามารถกำหนดชื่อของบาร์โค้ดสิ่งของแต่ละชิ้นเพื่อง่ายต่อการจดจำ
- สามารถแสดงชื่อผู้รับ รวมทั้งลายเซ็นต์ผู้รับ หากผู้รับมีการเซ็นต์ผ่านอุปกรณ์พกพาเมื่อรับสิ่งของ
- สามารถแสดงแผนที่เพื่อแสดงเส้นทางการเดินทางของสิ่งของบนแผนที่
- ลดการผิดพลาดในการกรอกข้อมูลบาร์โค้ด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรับทราบเมื่อมีการกรอกหมายเลขบาร์โค้ดที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน
- โปรแกรมรองรับการแสดงผลทั้ง ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ
- สามารถป้อนข้อมูลรหัสบาร์โค๊ดผ่านกล้องได้
- รองรับการใช้งานใน iPhone และ iPad
-ไม่มี โฆษณา

Download App ได้ที่iOSAndriod

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

เครื่องรูดบัตรเครดิตผ่าน App สำหรับ SMEs


มีร้านค้าหลายรายอยากได้เครื่องรูดบัตรเครดิต เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าในการชำระค่าสินค้าแทนเงินสด ซึ่งต้องคิดหนักเนื่องจากมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และต้องรักษายอดขาย นอกจากต้องเสียค่าธรรมเนียมการรูดบัตรซึ่งแตกต่างกันไป แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เพียงแค่อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทำให้กลายสภาพเป็นเครื่องรูดบัตรได้อย่างง่ายดาย

อุปกรณ์ดังกล่าวเรียกว่า mPOS (Mobile Point-of-Sale) เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ทำหน้าที่อ่านข้อมูลจากบัตรเครดิต และบัตรเดบิต เปรียบเสมือนเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยข้อมูลบนบัตรจะถูกส่งต่อไปยังแอปพลิเคชั่นที่ติดตั้ง ซึ่งเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 3 จี หรือไว-ไฟไปยังธนาคาร

โดยร้านค้าจะระบุราคาสินค้าลงในแอปพลิเคชั่น จากนั้นลูกค้าส่งบัตรเครดิตให้ทางร้านนำบัตรไปเสียบเข้ากับเครื่อง mPOS เพื่ออ่านข้อมูลบนชิปการ์ด (หรือรูดกับแถบแม่เหล็ก) จากนั้นลูกค้าใช้นิ้วเซ็นชื่อลงบนโปรแกรม ใส่เบอร์โทรศัพท์มือถือเพื่อรับ SMS หรืออีเมลเพื่อรับสลิป ก่อนที่ร้านค้าจะใส่รหัสร้านค้าเพื่อขออนุมัติวงเงินกับธนาคาร กระทั่งทำรายการสำเร็จ ปัจจุบันมีอยู่ 4 สถาบันการเงินที่ให้บริการเครื่อง mPOS ได้แก่
ที่มา http://www.sakhononline.com/report/?p=819

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

การดูแลรักษา External Harddisk

แม้ว่า External Harddisk หรือ Harddisk พกพาจะมีการรับประกัน 3-5 ปี แต่ถ้าเราเก็บข้อมูลที่สำคัญไว้ เราคงไม่อยากให้มันเสียและส่งเคลมใช่ไหมครับ เพราะบางครั้งก็อาจกู้กู้ข้อมูลกลับมาไม่ได้ หากไม่ได้สำรองข้อมูลไว้ ดังนั้นเราควรรู้วิธีการดูแลรักษา External Harddisk ให้อยู่กับเราไปนานๆ
  1. ระวังอย่าให้ external harddisk ของเรา เกิดการกระแทก 
  2. อย่าดึง external harddisk ออก ในขณะที่มีการเขียนอ่านข้อมูล เพราะอาจทำให้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลที่กำลังเขียนหรือ อ่าน นั้นๆ เกิดเสียหายได้
  3. กด safety remove hardware ทุกครั้ง ก่อนที่จะดึงสาย external harddisk 
  4. ไม่ควรเสียบสายทิ้งไว้ เมื่อใช้งาน harddisk เสร็จแล้ว 
  5. สาย data ที่เชื่อมต่อระหว่าง external harddisk ต้องอยู่ในสภาพดี ไม่มีการหักหรืองอมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแรงดันไฟที่ส่งมายัง external harddisk และ อัตราการส่งถ่ายข้อมูลได้
  6. ไม่ควรใช้ซอฟต์แวร์ที่ เพิ่มความเร็วรอบการหมุนของ external harddisk เพราะจะทำให้อายุการใช้งานลดลง
  7. ควรจะมีการสแกนไวรัสอย่างน้อยเดือนละครั้ง แต่หากเรานำไปใช้ที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดไวรัสมากเช่นร้านเน็ตคาเฟ่ หรือความที่มหาวิยาลัย แนะนำให้แสกนทุกครั้ง
  8. แบ่งพาร์ตติชั่นฮาร์ดดิสก์ เพื่อลดการทำงานในการอ่านข้อมูลของฮาร์ดดิสให้น้อยลง และเป็นการเพิ่มความเร็วให้ฮาร์ดดิสด้วย
  9. Defrag External Harddisk เพื่อจัดระเบียบของพื้นที่ในฮาร์ดดิสของคุณและลดภาระของหัวอ่าน
  10. ScanDisk เพื่อตรวจสอบหา Bad Sector 
แม้ว่าเราจะทำการดูแลรักษา external harddisk อย่างดีแล้ว วันหนึ่ง external harddisk ก็ต้องเสียอยู่ดี ดังนั้นสำรองข้อมูลที่สำคัญเอาไว้บ้าง อย่ามีเพียง Copy เดียว

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

สำรองข้อมูลสำคัญของคุณไว้บนอินเตอร์เน็ตหรือยัง

การสำรองข้อมูลหมายถึงการเก็บข้อมูลไว้สองชุดขึ้นไป ซึ่งอาจจะเก็บข้อมูลไว้อีกที่หนึ่งไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์ภายนอกหรือเฮาร์ดดิสก์ภายใน หรือเขียนเก็บไว้ในดีวีดี หลายคนใช้โปรแกรมสำรองข้อมูลที่มากับระบบปฏิบัติการ แต่หลายคนไม่ได้สำรองข้อมูลไว้ ทำให้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นฮาร์ดดิสก์พัง โน๊ตบุ๊กหาย น้ำท่วม ไฟไหม้ ก็ไม่สามารถกู้ข้อมูลนั้นมาได้

ปัจจุบันมีทางเลือกอีกทางหนึ่งคือการสำรองข้อมูลไว้บนอินเตอร์เน็ตหรือเรียกว่าบริการคลาวด์สตอเรจซึ่งปัจจุบันมีบริการฟรีมากมาย เช่น
  • Dropbox ให้พื้นที่ฟรี 2 GB
  • Google Drive ให้พื้นที่ฟรี 5 GB
  • Copy ให้พื้นที่ฟรี 5 GB
  • OneDrive ให้พื้นที่ฟรี 7 GB
  • Box ให้พื้นที่ฟรี 5 GB
ซึงการเก็บข้อมูลไว้ในคลาวด์มีข้อดีหากก็คือคุณสามารถเปิดไฟล์ที่ไหนก็ได้ อุปกรณ์อะไรก็ได้ เสมือนกับคุณเก็บข้อมูลไว้ในที่เดียวกัน แต่มีการสำรองไว้หลายๆ ที่

ลองใช้ดูนะครับ เลือกสักบริการใดบริการหนึ่งก่อนก็ได้ เช่นถ้าคุณมีบัญชี Hotmail ก็ให้ลองใช้ OneDrive หรือถ้ามีบัญชี Gmail ก็ลองใช้ Google Drive ถ้าใช้จนชินแล้วค่อยลองสมัครอันอื่นเพิ่มได้ หรือไม่อยากมีหลายบัญชี แต่ต้องการพื้นที่มากกว่าที่ใช้ฟรี ก็สามารถซื้อพื้นที่เพิ่มได้ครับ

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

ระบบ ERP คืออะไร


ERP ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning หมายถึง การวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดของทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร

ERP จึงเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในการบริหารธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กร อีกทั้งยังช่วยให้สามารถวางแผนการลงทุนและบริหารทรัพยากรขององค์กรโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ERP จะช่วยทำให้การเชื่อมโยงทางแนวนอนระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง การผลิต และการขายทำได้อย่างราบรื่น ผ่านข้ามกำแพงระหว่างแผนก และทำให้สามารถบริหารองค์รวมเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ระบบ ERP เป็นระบบสารสนเทศขององค์กรที่นำแนวคิดและวิธีการบริหารของ ERP มาทาให้เกิดเป็นระบบเชิงปฏิบัติในองค์กร ระบบ ERP สามารถบูรณาการ (integrate)รวมงานหลัก (core businessprocess) ต่างๆ ในบริษัททั้งหมด ได้แก่ การจัดจ้าง การผลิต การขาย การบัญชี และการบริหารบุคคล เข้าด้วยกันเป็นระบบที่สัมพันธ์กันและสามารถเชื่อมโยงกันอย่าง real time

ที่มา www.ecitthai.net/index3.php

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

การขายสินค้าบน Facebook ด้วย Bento Web

สำหรับผู้ประกอบการที่จะเริ่มขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จะมีแค่เว็บไซต์เพื่อทำอี-คอมเมิร์ซอย่างเดียวคงไม่พอแล้ว เพราะปัจจุบันคนไม่ได้ออนไลน์ผ่านทางคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว ในระหว่างทำงานหรืออยู่ที่บ้านอาจจะใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือแล็ปท็อป ขณะเดินทางหรืออยู่ข้างนอกก็จะใช้อุปกรณ์โมมายเช่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ในขณะที่ออนไลน์ก็นิยมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คเช่นเฟซบุ๊กอีกด้วย

ดังนั้นหากเราจะขายสินค้าออนไลน์ เราควรที่จะมีช่องทางการขายให้ครบทุกช่องทางทั้งคอมพิวเตอร์ โมบาย และโซเชียลเน็ตเวิร์ค


โดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์คเช่นเฟซบุ๊กปัจจุบันมีคนไทยใช้ไม่ต่ำกว่า 26 ล้านคน และเป็นช่องทางในการขายสินค้าและพูดคุยกับลูกค้า แต่หากจะเปิดร้านค้าบนเฟซบุ๊กแบบเดิมๆ ขั้นตอนการซื้อสินค้าก็อาจจะต้องให้ลูกค้ามาคอมเม้นต์ที่รูปสินค้า แล้วก็โทรติดต่อเจ้าของร้านเรื่องต่างๆ ซึ่งยุ่งยากมาก เนื่องจากเฟซบุ๊กไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อขายสินค้า

เบนโตะเว็บเป็นร้านค้าสำเร็จรูปที่คุณสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย และยังสมารถนำมาแสดงที่เฟซบุ๊กได้ ทำให้เฟซบุ๊กมีระบบซื้อขายแบบอี-คอมเมิร์ซ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถรับคำสั่งซื้อจากเฟซบุ๊กได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

ระบบหลังบ้านก็มีให้พร้อมเช่น การพิมพ์ใบสั่งซื้อ เช็กสถานะ สรุปข้อมูลขาย เก็บข้อมูลลูกค้า รวมถึงออกใบเสร็จรับเงินและพิมพ์สถานที่จัดส่ง ทั้งหมดนี้พร้อมใช้งานได้ทันที โดยสามารถทดลองใช้ฟรี โดยขายสินค้าได้ 5 ชิ้น ถ้าอยากขายสินค้ามากกว่านี้ก็เสียค่าบริการรายเดือน เดือนละ 450-600 บาทเท่านั้น

นอกจากเราจะได้ร้านค้าอี-คอมเมิร์ซบนเฟซบุ๊กหรือเรียกแบบเทห์ๆ ว่า "โซเชียลคอมเมร์ซ" ร้านค้าที่สร้างยังสามารถแสดงผลได้กับทุกอุปกรณ์ทั้งคอมพิวเตอร์และโมบาย โดยใส่สินค้าครั้งเดียว แต่แสดงทุกที่

ดังนั้นหากผู้ประกอบการท่านใดอยากจะเริ่มขายสินค้าออนไลน์แล้ว เบนโตะเว็บก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีมากๆ เลย

สนใจทดลองเปิดร้านขายสินค้าได้ที่ www.bentoweb.com

พูดคุยเรื่องไอทีแบบง่ายๆ ที่ Easy IT. For SMEs

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

Digital Wallet คืออะไร


Digital Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิตอล เป็นรูปแบบการจ่ายเงินแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้ธนบัตร ทำได้ทั้งออนไลน์และออพไลน์ สามารถเก็บช่องทางการชำระเงินทั้งหมดของคุณไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคาร บัตรเครดิตเอาไว้ในบัญชีเดียว และเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อนำไปแสกนเวลาชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว โดยระบบจะตัดเงินจากบัญชีที่ผูกไว้ ใบเสร็จดิจิตอลก็จะส่งเข้าโทรศัพท์คุณทันที ทำให้คุณสามารถเก็บประวัติการจ่ายเงินเพื่อนำมาบริหารจัดการได้ ทางฝั่งร้านค้าก็สามารถเก็บประวัติข้อมูลการสั่งซื้อของเราได้ และอาจส่งคูปองส่วนลดมาให้ลูกค้าประจำของร้านผ่าน Digital Wallet เพื่อนำมาใช้ในการซื้อสินค้าหรือบริการครั้งถัดไป
จะเห็นว่า Digital Wallet มีประโยชน์มากทั้งทางฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ซื้อได้ความสะดวกรวดเร็วในการชำระบริการ และยังช่วยในเรื่องของการบริหารการเงินส่วนบุคคลด้วย ผู้ขายได้ข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำมาวิเคราะห์เพื่ออกโปรโมชั่นเพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/DIPECIT

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

Green IT เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม


Green IT หรือ เทคโนโลยีสีเขียว คือ แนวคิดในการบริหารจัดการ และเลือกใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการการใช้พลังงาน ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการสร้างขยะ รวมถึงการนำขยะอิเลคทรอนิคส์มารีไซเคิลใหม่อีกด้วย ซึ่งเป้าหมายสูงสุดคือ อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ หรือขยะอิเลคทรอนิคส์ต้องถูกนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด และไม่มีส่วนประกอบที่ทำจากสารพิษ อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ต้องใช้พลังงานน้อยลง แต่ความสามารถมากขึ้น ตามแนวคิดที่ว่า "Maximum Megabytes for Minimum Kilowatts"
            หากจะพูดถึง Green IT ให้ครอบคลุมทั้งหมด คงต้องมองตั้งแต่การผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ การเลือกและใช้งานอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ และการทิ้งอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ซึ่งทั้ง 3 ขั้นตอนนั้นถือเป็น วัฏจักรของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์เลยทีเดียว
               การผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ที่สนับสนุน Green IT นั้นเราต้องมองถึงตัวผลิตภัณฑ์ว่า ออกแบบต้องออกแบบตามแนวความคิดที่ว่า ใช้พลังงานน้อยลง แต่ความสามารถมากขึ้น และขั้นตอนการผลิตต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมคือ ใช้อุปกรณ์ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ให้ได้มากที่สุด ใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตให้น้อยที่สุด เช่นลดปริมาณการใช้น้ำ หรือพลังงานลงในการผลิตผลิตภัณฑ์หนึ่งชิ้น แต่หากเราผลิตผลิตภัณฑ์จำนวนหลายหมื่นชิ้น เราจะลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
            การเลือกและใช้งานอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ มักจะดำเนินการในเชิงของนโยบายขององค์กรเป็นหลัก โดยการนำ Green IT มาใช้ภายในองค์กรมาใช้กับองค์กรนั้นจะต้องมีนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม คือ ควรมีทั้งแผนในระยะสั้น และแผนในระยะยาว ซึ่งแผนในระยะสั้นจะเน้นการดำเนินการที่สามารถทำได้ในทันที เช่น การปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน หรือการใช้กระดาษรียูส เป็นต้น ส่วนแผนในระยะยาวนั้น สามารถดำเนินการได้หลายวิธีการขึ้นอยู่กับนโนบายเช่น การเปลี่ยนเป็นระบบส่องสว่างแบบประหยัดไฟ การจัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ประหยัดไฟ การใช้เอกสารอิเลคทรอนิคส์ทดแทนการใช้กระดาษ การใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างคุ้มค่าเพื่อลดจำนวนของการซื้อใหม่ เป็นต้น

ที่มา: http://www.g07.spusama.com/index.php/greenit/26-greenit



ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/DIPECIT

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

ทำอย่างไรดีเมื่อ SMEs อยากมี App

สมัยที่อินเตอร์เน็ตเพิ่งจะบูม ใครๆ ก็อยากจะมีเว็บไซต์กัน แต่ปัจจุบันในยุคที่คนใช้สมาร์ทโฟนเป็นอวัยวะที่ 33 และ 3G ก็สามารถใช้กันได้ทั่วประเทศ หลายๆ ธุรกิจก็คงอยากจะมี Mobile App กันบ้าง ปัจจุบันมีบริษัทที่รับทำแอพ ทั้งแบบสร้างใหม่ทั้งแอพ หรือใช้รูปเทมเพลตที่มีอยู่แล้ว มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนบาท ให้เลือกมากกมาย และบางที่ให้เราสามารถสร้างแอพแบบฟรีๆ อีกด้วย ดังนั้นการที่ SMEs จะมี App ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่เชื่อลองค้นหาคำว่า "รับทำแอพ" ใน Google ดูนะครับ จะมีคนจ้างทำแอพเยอะมาก แต่มีแอพแล้วจะมีคนใช้คุ้มกับเงินที่ลงทุนไปหรือเปล่า ต้องลองพิจารณาดีๆ นะครับ

สำหรับคนที่คิดจะทำแอพจริงๆ ผมมีทางเลือกให้อยู่ 2 ทางก็คือทำแอพขึ้นมาใหม่ทั้งหมด กับสร้างจากเทมเพลตที่มีอยู่แล้ว (แอพสำเร็จรูป) ซึ่งแบบแรกราคาจะสูงมากขึ้นอยู่กับความสามารถของแอพและบริษัทที่เราจ้าง ส่วนแบบที่สองมีทั้งจ่ายเป็นรายเดือนกับฟรี โดยมีตัวอย่างบริษัทดังนี้

บริษัทที่รับทำแอพ เช่น
  1. บริษัท จีซอฟต์บิส จำกัด
  2. Code Gears Co.,Ltd
  3. บริษัท ไชโย โฮสติ้ง จำกัด
แอพสำเร็จรูปที่เราสามารถทำได้เอง เช่น
  1. AppMaker by iTrueMart
  2. iBizApp by ThaiHosting
  3. Your App by lnwshop
  4. infinitemonkeys.mobi
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/DIPECIT

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

Hot Pot App ตอบสนองลูกค้ายุคใหม่


เมื่อวานผมได้เสนอบริการระบบบัตรสะสมแต้มสำหรับร้านค้าทั่วไปแล้ว วันนี้จะขอยกตัวอย่างแอพสะสมแต้มที่เป็นแอพเฉพาะสำหรับร้านอาหาร มาเป็นกรณีศึกษานะครับ แอพที่ว่าก็คือแอพ Hot Pot App

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแอพของร้าน Hot Pot และร้านอาหารในเครือ ได้ออกแอพมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ใช้สมาร์โฟนสะสมแต้มได้ทุกที่สุกสาขา โดยไม่ต้องพกบัตรให้ยุ่งยาก ไม่ต้องกลัวบัตรหาย ไม่ต้องกลัวลืม ซึ่งมี Feature ต่างๆ ดังนี้
 - Member Card สามารถสมัครเป็นสมาชิก HOT POT ได้จากแอพ
 - บัตรสะสมแต้ม เมื่อทานอาหารตามจำนวนที่กำหนด จะได้รับสติกเกอร์เพื่อนำแลกของรางวัลได้
 - Promotion อัพเดทโปรโมชั่น และข่าวสารกิจกรรม สามารถแชร์ข้อมูลไปยัง Facebook ได้
- สาขาใกล้บ้านคุณ ค้นหาร้านค้าในเครือ HOT POT ที่อยู่ใกล้คุณพร้อมบอกเส้นทาง
- แชะ & แชร์ สำหรับถ่ายรูป แต่งรูป โดยมีสติ๊กเกอร์ Sticker Pot Jung & The Gang ให้ใช้ สามารถแชร์ Facebook ของคุณได้ทันที
- ข้อเสนอแนะ ส่งคำแนะนำ ติชมผ่านแอพได้ทันที

ร้านค้าใหญ่ๆ เริ่มปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่แล้ว แต่หากทาง SMEs อยากจะมีแอพบ้างต้องทำอย่างไร คอยติดตามบทบทความถัดไปนะครับ

สามารถดาวน์โหลดแอพได้ที่ iOS Android

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/DIPECIT

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

BOXBOX app ระบบบัตรออนไลน์รูปแบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้คุณ ใช้งานง่าย สะดวก ถูกใจลูกค้า


เราคงคุ้นเคยกับบัตรสะสมแต้มแต้มที่ร้านค้าแจกให้เราเพื่อดึงให้เรากลับไปใช้บริการบ้างไหมครับ เช่นร้านกาแฟ กินครบ 10 แก้ว นำบัตรที่ประทับตราครบมาแลกเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว ร้านตัดผม ถ้าตัดผมครบ 10 ครั้ง ครั้งต่อไปเอาบัตรมาตัดฟรีได้เลย ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการกับร้านของเราอีก

แต่บ่อยครั้งที่ลูกค้าทำบัตรของเราหาย และก็ไม่ได้กลับมาใช้บริการของเราอีกเลย หรือมาใช้แต่ไม่ได้เอาบัตรมา จะดีไหมถ้าเรามีระบบบัตรสมาชิกออนไลน์ให้กับลูกค้าของเรา หลังจากนั้นลูกค้าแค่บอกเบอร์โทรศัพท์ ทางร้านก็สามารถรู้ว่าลูกค้าคนนี้เคยมาใช้บริการกี่ครั้ง แต่ละครั้งใช้จ่ายเท่าไหร่ มาใช้บ่อยไหม สะสมแต้มไปแล้วเท่าไหร่ และยังมีระบบส่ง SMS ไปหาลูกค้าได้อีกด้วย

ลูกค้าก็ไม่ต้องพกบัตร และสามารถเช็คยอดสะสมของร้านเราได้ทั้งทางเว็บไซต์หรือโมบายแอพ

ทางร้านก็จะมีระบบฐานข้อมูลลูกค้า โดยที่ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมให้ยุ่งยาก ขอเพียงมีคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้เท่านั้นเอง

ระบบบัตรออนไลน์ที่กล่าวมานี้ก็คือ BOXBOX ซึ่งคุณสามารถทดลองใช้ได้ฟรีที่ www.boxbox.me


ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/DIPECIT